ถึงแม้กล้องรุ่นนี้ได้เปิดตัวมา 3 ปีแล้ว ก็ยังสามารถใช้งานได้อย่างดีเลยทีเดียว ตัวเซนเซอร์จะเป็น M4/3 หรือ Micro Four Third นะครับ แล้วตัว M4/3 ที่ว่านี้คืออะไร มันคือขนาดของเซนเซอร์ที่มีสัดส่วนเป็น 4/3 นั้นเองครับ โดยมีความละเอียดของภาพอยู่ที่ 16 ล้านพิกเซล ที่สำคัญมาพร้อมกับระบบป้องกันภาพสั่นไหว ถึง 5 แกนเลยทีเดียว
ซึ่งก่อนได้มาใช้กล้องตัวนี้ กล้องตัวเก่าของผมคือ Canon 760D แล้วได้นำกล้องนั้นไปเที่ยวที่ต่างๆมากมายทั้งในและต่างประเทศ ซึ่งตอนแรกๆที่ถือก็ยังไม่ค่อยรู้สึกเมื่อยหรือหนัก แต่พอได้เดินเที่ยวไปเรื่อยๆกลับอยากหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาถ่ายแทนเพราะตัวกล้องพร้อมเลนส์มีน้ำหนักมากกว่า 1 กก. ซึ่งทำให้เมื่อยมือเวลายกขึ้นมาถ่ายบ่อยๆ ผมจึงได้พยายามหากล้อง Mirrorless มาใช้ ซึ่งผมคิดว่าการที่น้ำหนักของกล้องเบาลง จะทำให้ผมอยากที่หยิบมันขึ้นมาถ่ายมากขึ้น
โดยกล้องตัวนี้ผมได้สั่งมาจากร้าน Digilife ทางแอพ Shopee ซึ่งได้มีการจัดโปรโมชั่นอยู่ ณ เวลาที่ได้ทำการสั่งซื้อ ราคาอยู่ที่ประมาณ 17,000 บาท
ตัวกล้อง OM-D E-M10 Mark ii + เลนส์ 14-42mm
สินค้าแพ็คมาตามนี้นะครับ
เริ่ม unbox กันได้เลย
ตัวกล้องมีขนาดกระทัดรัดเป็นอย่างมาก ตัวเลนส์ที่ได้มาจะมี 14-42mm และ 40-150mm นะครับ โดยตัวเลนส์ 14-42mm จะเป็นเลนส์ power zoom ซึ่งก้คือเราแค่หมุนไปนิดเดียว ตัวมอเตอร์ในเลนส์ก้จะค่อยๆขยับระยะไปเรื่อยๆโดยที่เราสามารถดูจากตัวจอ LCD ว่าอยู่ที่ระยะเท่าไหร่แล้ว
ระยะของเลนส์ที่ใช้กับกล้อง M4/ 3 จะไม่เหมือนกับกล้องทั่วไปนะครั บ โดยเราสามารถคำนวนได้ง่ายๆโ ดยการนำระยะของเลนส์ไปคูณด้ วย 2 นะครับ ตัวอย่างเช่น เลนส์ 14-42mm เมื่อนำไปคูณ 2 ก็จะได้ระยะ 24-84mm เมื่อเทียบกับระยะของกล้องฟ ูลเฟรมนะครับ
หน้าจอเป็นแบบ touch screen + มีแฟลชในตัวด้วยนะครับ ครบจริงๆ
ตัวเลนส์ 40-150mm จะเป็นเลนส์ที่ซูมโดยใช้การ หมุนเหมือนเลนส์ปกติทั่วไปน ะครับ
ของที่ได้มาในกล่อง
- Body Olympus OM-D E-M10 mk II
- Lens 14-42mm
- Lens 40-150mm
- แท่นชาร์จแบต
- สาย USB
- สายคล้องไหล่
- แบตเตอร์รี่
- CD-ROM ซอฟต์แวร์, คู่มือการใช้งาน
- บัตรรับประกันของทางร้าน
ทั้งหมดนี้เป็นการรีวิวแบบท ั่วไปนะครับ สนใจศึกษาเพิ่มเติมก็ไปตามไ ด้ที่ www.olympusimaging-th.com
[รีวิว] กล้อง Olympus OM-D E-M10 Mark II
Reviewed by
on
เมษายน 13, 2561
Rating:
ไม่มีความคิดเห็น: